ประวัติศาสตร์ฌ้อปาอ๋อง (3): เซี่ยงอวี่ทุบหม้อจมเรือ ตีกองทัพฉินแตกที่จี้ว์ลู่

ฌ้อปาอ๋อง (3): เซี่ยงอวี่ทุบหม้อจมเรือ ตีกองทัพฉินแตกที่จี้ว์ลู่

ตอนที่ 1 อยู่ที่นี่

เพราะความประมาทของเซี่ยงเหลียง ทำให้ตัวเขาต้องสิ้นชีวิตพร้อมกับทหารจำนวนมากที่ติ้งเถา กองทัพฉินของจางหานได้ยกเข้าประชิดแคว้นจ้าวที่เพิ่งสถาปนาขึ้นมาใหม่ ถ้าแคว้นจ้าวแตกแล้วเห็นทีการกบฎทั้งหมดคงจะถูกกองทัพฉินปราบได้

สถานการณ์จะดำเนินต่อไปอย่างไร?

เซี่ยงอวี่

รับสั่งของฉู่ไหวหวาง

ข่าวการตายของเซี่ยงเหลียงทราบไปถึงเซี่ยงอวี่ที่นำทัพยกไปตีอีกเมืองหนึ่ง เซี่ยงอวี่เสียใจอย่างมาก เขาร้องไห้เพราะการจากไปของเซี่ยงเหลียงนานเลยทีเดียว เซี่ยงเหลียงเป็นอาที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นจึงไม่ต่างอะไรกับพ่อของเขาคนหนึ่ง การจากไปของเซี่ยงเหลียงทำให้เซี่ยงอวี่ทั้งเศร้าและโกรธแค้น เขาตั้งใจว่าจะต้องล้างแค้นให้จงได้

ฟ่านเจิง ที่ปรึกษาผู้เฒ่าปลอบให้เซี่ยงอวี่ให้ได้สติ เซี่ยงอวี่จึงรีบยกกองทัพมาหาหลิวปังที่จัดแจงงานศพของเซี่ยงเหลียงคอยท่าอยู่แล้ว เซี่ยงอวี่สั่งให้จัดงานศพอย่างเรียบง่ายเพราะการสู้รบติดพันกันอยู่ ทหารอาจจะเสียขวัญได้

ระหว่างนั้นเอง กองทัพฉินของจางหานไล่ตีกองทัพจ้าวอย่างหนักจวนจะเสียที เซี่ยงอวี่เห็นว่าฉู่ไหวหวางประทับอยู่ในบริเวณนั้นเห็นจะเป็นอันตราย ดังนั้นเซี่ยงอวี่ หลิวปัง และซ่งอี้ จึงเชิญเสด็จฉู่ไหวหวางไปประทับอยู่ที่เผิงเฉิง อันเป็นเมืองใหญ่ที่มั่นคง

วัดซิงหัว ในเมืองสวีโจว (อดีตเรียกว่าเผิงเฉิง)By 猫猫的日记本 – Own work, CC BY-SA 3.0,

หลังจากฉู่ไหวหวางมาถึงเผิงเฉิงได้ไม่นาน แคว้นจ้าวได้ส่งทูตมาขอกำลังจากแคว้นฉู่ ฉู่ไหวหวางปรารถนาจะให้ยกกองทัพไปช่วยสองกองทัพ

กองทัพแรกให้ซ่งอี้เป็นแม่ทัพใหญ่ เซี่ยงอวี่เป็นแม่ทัพหน้า ฟ่านเจิงเป็นเสนาธิการทัพ กองทัพนี้ให้ยกไปช่วยแคว้นจ้าวและปะทะกับกองทัพหลวงของจางหานโดยตรง ในใจของเซี่ยงอวี่เองก็อยากจะไปอยู่แล้ว เพราะอยากจะล้างแค้นให้เซี่ยงเหลียงจนตัวสั่น กองทัพนี้มีกำลังทหารสองในสามของกองทัพทั้งหมด

ส่วนกองทัพที่สองให้หลิวปังเป็นแม่ทัพใหญ่ กองทัพนี้มีหน้าที่บุกเข้าตีดินแดนกวนจงอันเป็นแผ่นดินแม่ของราชวงศ์ฉิน สาเหตุหนึ่งเพื่อให้จางหานพะว้าพะวง ถึงแม้งานจะดูเหมือนง่ายกว่า แต่กำลังทหารที่ยกไปด้วยนั้นมีน้อยกว่า

ก่อนที่จะยกทัพออกไป ฉู่ไหวหวางตรัสว่า ถ้าผู้ใดเข้าเมืองเสียนหยาง เมืองหลวงของราชวงศ์ฉินได้ก่อนจะแต่งตั้งให้เป็นหวาง (กษัตริย์) ครอบครองดินแดนกวนจง อันเป็นดินแดนของราชวงศ์ฉิน

หลังจากนั้นกองทัพทั้งสองจึงออกไปจากเมืองเผิงเฉิงตามรับสั่ง

เซี่ยงอวี่สังหารซ่งอี้ ชิงเอากองทัพ

ซ่งอี้ยกกองทัพออกมาจากเผิงเฉิง และเดินทัพมาถึงอันหยาง ใกล้กับเมืองจี้ว์ลู่ เมืองที่กองทัพจ้าวถอยหนีไป แต่เขากลับไม่สั่งให้ยกทัพไปไหนเลย กองทัพฉู่หลายหมื่นคนตั้งอยู่ที่อันหยางภายใต้อากาศที่หนาวเหน็บและฝนที่ตกหนัก

ส่วนซ่งอี้เสพสุราตลอดวัน และส่งให้ลูกตัวเองไปติดต่อกับแคว้นฉีเซี่ยงอวี่เห็นเช่นนั้นก็ไม่พอใจอย่างยิ่ง ตัวเขาอยากจะออกรบเป็นที่สุด หนึ่งเพื่อล้างแค้น สอง กองทัพฉินกำลังจะตีกองทัพจ้าวแตกอยู่แล้ว แต่ซ่งอี้กลับมานั่งดูตาปริบๆ ไม่ทำอะไรให้เป็นประโยชน์เลย

ไม่ต้องสงสัยว่า ซ่งอี้ทำเช่นนั้นเพราะกลัวนั่นเอง เขากลัวกองทัพฉินมาก และไม่กล้าออกรบ

เซี่ยงอวี่จึงเข้าไปในกระโจมและขอให้ซ่งอี้สั่งให้เข้าตีกองทัพฉิน แต่ซ่งอี้ปฏิเสธ เขาด่าว่าเซี่ยงหวี่ว่าเป็นคนหัวร้อน และบอกเขาว่าถ้าขัดคำสั่งและมีพฤติกรรมแย่ๆ จะถูกตัดหัว

เวลาผ่านไป 46 วัน สถานการณ์ก็ยังเหมือนเดิม นั่นก็คือซ่งอี้ไม่ยอมโจมตีกองทัพฉินเสียที พวกทหารฉู่ที่ตั้งใจจะมารบแต่กลับไม่รบสักทีจึงนินทาซ่งอี้กันยกใหญ่

เซี่ยงอวี่สุดจะทนอีกต่อไปแล้ว เขาจึงบุกเข้าไปกระโจมของซ่งอี้ และฟันซ่งอี้คอขาดตาย เซี่ยงอวี่ประกาศกับทหารทั้งหมดว่า ซ่งอี้เป็นกบฏลักลอบติดต่อกับกองทัพฉี ฉู่ไหวหวางจึงให้ตนเองสังหารเสียแล้ว หลังจากนี้ขอให้กองทัพทั้งหมดอยู่ในการบังคับบัญชาของเซี่ยงอวี่

พวกทหารเกลียดชังซ่งอี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พวกเขาจึงยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี ในวันรุ่งขึ้นเซี่ยงอวี่จึงเดินทัพเข้าช่วยแคว้นจ้าวในบัดดล เซี่ยงอวี่สั่งให้ยิงปู้และและจงหลีโม่นำกองทัพสองหมื่นคนเข้าแม่น้ำหวงเหอ (ฮวงโห) เพื่อเข้าสนับสนุนเมืองจี้ว์ลู่ หลังจากนั้นเขาจะยกทัพตามไป

ทุบหม้อจมเรือ

จางหาน แม่ทัพใหญ่ฝ่ายฉินเห็นกองทัพฉู่กำลังจะข้ามแม่น้ำ เขาจึงใส่ให้ต่งอี้ และซือหม่าซินนำทหารห้าหมื่นคนเข้าสกัด ยิงปู้ขึ้นฝั่งแม่น้ำหวงเหอได้เห็นว่ากองทัพฉินยังมาไม่พร้อม กองทัพฉู่จึงเป็นฝ่ายเข้าตีทันที ทั้งสองฝ่ายสู้รบกันอย่างดุเดือด เมื่อเซี่ยงอวี่มาถึงก็ให้แบ่งกำลังออกไปเป็นสองส่วน เพื่อที่จะตีกระหนาบต่งอี้และซือหม่าซินจากสองด้าน

ต่งอี้และซือหม่าซินเห็นว่าจะต้านกองทัพฉู่ไม่ได้ พวกเขาจึงถอยทัพไป ทิ้งเสบียงจำนวนมากมายให้กองทัพฉู่ยึดไว้ได้

เซี่ยงอวี่ได้เสบียงมาจำนวนมาก แต่ต้องการที่จะบดขยี้กองทัพฉินไปในคราวเดียว เซี่ยงอวี่จึงมีคำสั่งให้เก็บเสบียงอาหารที่ยึดมาได้ไปพอกินแค่สามวันเท่านั้น ที่เหลือให้ทิ้งเสียทั้งหมด พร้อมกับทุบเครื่องครัวทิ้งทุกประเภท และยังให้เผาเรือที่เพิ่งพาพวกเขาข้ามแม่น้ำหวงเหอมาด้วย

ดังนั้นทหารทุกนายจึงรู้ว่า ถ้าพวกเขาจะมีชีวิตรอด พวกเขาจะต้องเอาชนะศัตรู และยึดเสบียงของศัตรูมาให้ได้เท่านั้น ถ้าทำไม่ได้ก็ตายลงเสียที่นี่ทั้งหมด รวมไปถึงตัวเซี่ยงอวี่เองด้วย

ข่าวการทุบหม้อจมเรือทราบไปถึงค่ายฝ่ายฉิน จางหานคะเนดูว่าในเวลานั้นกองทัพฉินมีกำลัง 200,000 นาย ภายใต้กำลังของหวางหลี และอีก 200,000 – 300,000 นาย ภายใต้การนำของตัวจางหานเอง ทำให้กำลังกองทัพฉินทั้งหมดมีประมาณ 400,000-500,000 นาย ในขณะที่กองทัพฉู่มีเพียง 50,000-60,000 นายเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีกองทัพอื่นๆ อีกประมาณ 80,000 คนที่ยกมาช่วยแคว้นจ้าวด้วย แต่ทุกกองก็เหมือนซ่งอี้ นั่นก็คือกลัวกองทัพฉินเกินกว่าที่จะยกเข้ามาช่วยแคว้นจ้าว ทำให้พวกนี้ไม่มีส่วนในสงคราม และจะไม่ยกขึ้นมาช่วยเซี่ยงอวี่แน่นอน

รูปปั้นแม่ทัพฉินในสุสานทหารดินเผาที่ซีอาน By Holger.Ellgaard – Own work, CC BY-SA 3.0,

ดังนั้นจางหานจึงคิดว่าจะให้หวางหลีแบ่งกำลังสองแสนคนของเขาออกเป็นเก้าค่าย และช่วยกันตีกระหนาบกองทัพฉู่ จนกระทั่งทหารฉู่เหนื่อยล้า และอ่อนแรงไปเอง เพียงเท่านี้ก็จะเอาชนะกองทัพฉู่ได้โดยง่าย

เซี่ยงอวี่จะแก้ทางแผนนี้อย่างไรกันแน่?

ยุทธการแห่งจี้ว์ลู่

เซี่ยงอวี่เริ่มต้นด้วยการส่งทหารไปตัดเสบียงกองทัพของหวางหลีก่อน เพื่อไม่ให้เสบียงมาถึงกองทัพฉินได้ กองทัพฉินจะได้อ่อนแรงลง

หลังจากนั้นไม่พูดพร่ำทำเพลง เซี่ยงอวี่นำกองทัพฉู่ห้าหมื่นคนเข้าตีกองทัพฉินทันที ตัวเซี่ยงอวี่เองก็ขี่ม้าถือทวนนำหน้าทหาร เจอหน้าทหารฉินคนใด เซี่ยงอวี่ก็ไล่สังหารอย่างไม่มีปรานี

การต่อสู้ในสมรภูมิอย่างบ้าคลั่งของเซี่ยงอวี่ทำให้ทหารฉู่เกิดฮึกเหิมไม่กลัวความตาย ทหารฉู่ต่อสู้อย่างบ้าระห่ำตามอย่างแม่ทัพเช่นเดียวกัน มีการเปรียบปรายว่าทหารฉู่หนึ่งคนต่อสู้อย่างกล้าหาญท่ามกลางทหารฉินสิบคน

การโจมตีของฝ่ายฉู่เป็นไปอย่างรุนแรง เซี่ยงอวี่ตีค่ายของหวางหลีแตกอย่างรวดเร็ว และจับหวางหลีเป็นเชลยได้ด้วย แต่ยังไม่หนำใจ เซี่ยงอวี่สั่งให้ทหารติดตามกองทัพฉินที่แตกพ่ายไป และเข้าตีค่ายที่สองที่สามของกองทัพฉินจนแตกยับทั้งสองค่าย จนกระทั่งถึงเวลาค่ำมืดแล้ว เขาจึงสั่งให้ทหารพักเสียก่อน

ฟ่านเจิง เสนาธิการเห็นว่าเซี่ยงอวี่บุกเข้ามาเร็วไป และเข้ามาอยู่ในกลางวงล้อมศัตรู ภายในคืนนี้จางหานจะส่งกองทัพออกมาโจมตีตอนกลางคืน ไม่ต่างอะไรกับที่เคยทำกับเซี่ยงเหลียงครั้งหนึ่งแล้ว เซี่ยงอวี่ฟังเช่นนั้นก็เห็นด้วย เขาจึงให้ทิ้งค่ายให้ว่างไว้ ส่วนทหารทั้งหมดให้แบ่งเป็นสี่กอง คอยแอบซุ่มรอกองทัพฉิน

เป็นอย่างที่ฟ่านเจิงคิดไว้ คืนวันนั้นจางหานสั่งให้กองทัพออกมาตีค่ายฉู่จริงๆ แต่เมื่อมาถึงก็พบว่าค่ายดังกล่าวว่าง ทหารฉู่ที่ซุ่มอยู่จึงเข้าตีพร้อมกันจากทั้งสี่ด้าน กองทัพฉินแตกยับเยิน แม่ทัพถูกสังหาร ทหารหลายหมื่นพลีชีพลงกลางสมรภูมิ

เซี่ยงอวี่เห็นกองทัพได้ชัยชนะ เขาจึงสั่งให้ยกติดตามไปและบุกตีค่ายกองทัพฉินทันที แม้จะเข้าสู่เวลาเช้าแล้วก็ตาม กองทัพฉู่เข้าตีค่ายที่สี่และค่ายที่ห้าทั้งวัน จนสุดท้ายกองทัพฉินไม่อาจต้านทานความทรหดของกองทัพฉู่ได้ จนต้องทิ้งค่ายทั้งสองค่ายพร้อมกับซากศพทหารจำนวนมาก

จางหานเห็นค่ายทั้งห้าแตกจึงคิดจะแก้ตัว เขาสั่งให้ทหารฉินแอบไปคอยซุ่มไว้สองข้างทาง ถ้ากองทัพฉู่ยกเข้าตีค่ายที่หก กองทัพฉินทั้งสองจะได้ตีกองทัพฉู่ให้แตกพ่ายไป

หากแต่ว่าฟ่านเจิงกลับมองสิ่งที่จางหานคิดออกเป็นคำรบสอง เขาจึงซ้อนกลจางหานด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

เซี่ยงอวี่จะนำกองทัพเข้าตีกองทัพฉินตามปกติตอนกลางดึกของคืนวันนั้น ส่วนกองทัพอีกสองกองให้ยกเข้าตีกองทัพที่ซุ่มอยู่ของฝ่ายฉิน กองทัพที่ซุ่มอยู่ย่อมไม่ระวังตัวและเป็นเหยื่อของการซุ่มโจมตีอย่างแน่นอน

ในคืนวันนั้น กองทัพฉู่จึงยกเข้าตีค่ายที่หกอย่างรุนแรง แม่ทัพที่รักษาค่ายคิดว่าจะมีกองทัพที่ซุ่มอยู่ค่อยช่วยเหลือ แต่กลับไม่มีทหารฉินโผล่ออกมาช่วยเลยสักคนเดียว เพราะว่าเซี่ยงอวี่ได้สั่งให้กองทัพอีกสองกองทำลายไปแล้วนั่นเอง กองทัพฉินในค่ายที่หกจึงอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไหนเลยจะต้านทานเซี่ยงอวี่ได้ ค่ายที่หกเสียแก่ฝ่ายฉู่อีก

ฝ่ายจางหานได้ทราบว่าเสียไปหกค่ายแล้ว ทหารที่เหลืออยู่คงจะต้านทานกองทัพฉู่ต่อไปไม่ได้อีก เขาสั่งให้กองทัพที่เหลืออยู่ของหวางหลีทั้งหมดถอยทัพ เซี่ยงอวี่จึงให้ยิงปู้นำกองทัพไล่ติดตามไป กองทัพฉู่ไล่สังหารกองทัพฉินเป็นพัลวัน ทหารฉินที่ประจำการอยู่ที่ค่ายที่เจ็ด แปด และเก้าจึงแตกกระจายจนหมดสิ้น

ภายในเวลาสามวัน เซี่ยงอวี่ตีกองทัพของหวางหลีทั้งเก้าค่ายแตกยับเยินภายในการต่อสู้เก้าครั้ง ในจำนวนนี้ทหารฉู่แทบไม่ได้จับเป็นเชลยศึกเลย เหล่าทหารฉินต่างถูกสังหารในสมรภูมิเกือบทั้งหมด จำนวนทหารที่ตายจึงมากเกือบสองแสนคน

เมื่อสูญเสียกองทัพของหวางหลี จางหานถอนกำลังไปจากจี้ว์ลู่ และสั่งคนไปขอกำลังสนับสนุนจากเสียนหยาง การถอยทัพของจางหานทำให้แคว้นจ้าวปลอดภัยในที่สุด

ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของเซี่ยงอวี่ที่จี้ว์ลู่ ทำให้ชื่อเสียงของเซี่ยงอวี่ดังไปทั่วแผ่นดิน

เหตุการณ์จะเป็นไปอย่างไรต่อไป ติดตามได้ในตอนหน้าครับ

ตอนยาวล่าสุด

แนะนำ:จ้านกว๋อ

บทความอื่นๆ

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!