อาหารรีวิวอาหารรีวิวร้าน India Today ร้านอาหารอินเดียเด็ดๆ สุขุมวิทซอย 8

รีวิวร้าน India Today ร้านอาหารอินเดียเด็ดๆ สุขุมวิทซอย 8

หลังจากรีวิวร้านอาหารมาหลายชาติแล้ว ตั้งแต่ไทย จีน ญี่ปุ่น ตะวันตก วันนี้เลยขอมารีวิวร้านอาหารอินเดียบ้างครับ

ร้านนี้ชื่อ ร้าน India Today Bar & Restaurant อยู่ที่ซอยสุขุมวิท 8 ถ้ามาจากรถไฟฟ้าลงสถานีนานา แล้วเดินเข้าซอย 8 มานิดเดียวก็จะเห็นร้านอยู่ทางขวาแล้วครับ

ภาพด้านล่างคือ ตัวร้าน (ผมถ่ายจาก BTS) วันที่ไปกิน ฝนตกหนักเลย ผมเลยได้มาแค่นี้ครับ

บรรยากาศในร้านครับ มาแนว Impressionist ดูไม่ค่อยอินเดียเท่าไร 55 ภายในร้านจะมืดๆ ทึมๆ หน่อยนึง

พนักงานในร้านทุกคนเป็นชาวต่างชาตินะครับ เวลาสั่งก็ต้องสั่งเป็นภาษาอังกฤษ ท่านที่ไม่ถนัดก็ไม่ต้องซีเรียสไป ชี้ๆ เอาก็ได้ครับ

สำหรับวันนี้ผมมาโดยโปรโมชั่นบุฟเฟต์ของ Hungry Hub นะครับ โปรโมชั่นของ Hungry Hub นี่จะมีสองราคาได้แก่แบบ 550 บาท และแบบ 690 บาท วันนี้เราเลือกเป็นแบบ 690 บาทไปครับ

(ราคาในวงเล็บหมายถึง ถ้าสั่งแบบ a la carte)

เมนูของ 690 บาทมีหลายอย่างมากมาย ดูเต็มๆได้ ที่นี่ เลยครับ

อาหารนี่ ผมก็สั่งไปหลายอย่างเลย พนักงานจะถามก่อนนะครับว่า ลูกค้าต้องการปริมาณเครื่องเทศและความเผ็ดสำหรับมื้อนี้เท่าไร มีตั้งแต่แบบน้อย กลาง และมหาศาล ผมเลือกแบบกลางไปครับ

ระหว่างที่รออาหาร ผมและเพื่อนก็ได้สั่งเครื่องดื่มมาลองครับ (ในโปรบุฟเฟต์มีเฉพาะน้ำเปล่า ในส่วนนี้ผมเสียเงินเพิ่ม)

เครื่องดื่มตัวแรกเป็น Mango Lassi เครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงของอินเดียนั่นเองครับ ราคานี่ผมไม่แน่ใจ น่าจะ 95 บาท

ก่อนที่จะกิน ผมหวังไว้เยอะเหมือนกันนะ แต่พอกินไปแล้วค่อนข้างผิดหวัง ผมว่าเค้าใส่ตัวเครื่องเทศอะไรสักอย่างผสมลงไปเยอะเกินไป ตัวเครื่องเทศมันเลยกลบรสชาติอร่อยๆ ของมะม่วงหมดเลย

นี่ของเพื่อนเป็น โมฮิโต ราคาไม่แน่ใจเหมือนกันน่าจะเกือบสองร้อยนี่แหละครับ

ตัวนี้ผมกินของเพื่อนไปนิดนึง ผมว่ารสชาติก็เฉยๆ เหมือนทั่วไป แต่ไม่ให้รู้สึกว้าว แบบเออของร้านนี้อร่อย

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมงคือ การรอครับ รอโดยที่ไม่มีอะไรมาเสิร์ฟเลยยยยยยย แต่ส่วนนี้ผมต้องโทษตัวเองด้วยมั้งที่มาเร็วไป (ผมมากินตอน 5 โมง) เพราะพอหลังจากอาหารมาเสิร์ฟรอบแรกแล้ว อาหารที่สั่งทีหลังนี่มาอย่างไวจนกินไม่ทัน สงสัยเชฟต้องใช้เวลาเตรียมอะไรสักอย่าง

แกงที่สั่งไปมาเป็นถ้วยๆ ครับ ถ้วยนี้คือ Prawn Malabari (583 บาท)

แกงตัวนี้ ผมบอกเลยว่าอร่อยจริง มันเป็นแกงกุ้งมะเขือเทศและเครื่องเทศครับ ตัวเครื่องเทศไม่แรงเกินไปจนรับไม่ไหว รสชาติเลยกำลังดี กลิ่นก็กำลังหอมไม่ฉุนเกินไป ที่ชอบอีกอย่างคือตัวกุ้ง เพราะกุ้งนี่สดและมีรสชาติของแกงภายใน ถือว่าชอบเลยครับ

ตัวต่อมาคือ แกงแกะ หรือ Lamb Vindaloo (441 บาท)

ตัวนี้ถือว่าทำได้เยี่ยมอีกเช่นเดียวกัน เนื้อแกะไม่สาบเลยแม้แต่นิดเดียว แถมยังนุ่มอีก ตัวรสชาติแกงถือว่าดี เครื่องเทศไม่มากเกินไป รสชาติเผ็ดเล็กน้อยกำลังอร่อย ถือว่าเผ็ดแบบไม่ไร้สาระเลยครับ ตัวนี้ชอบมากเหมือนกัน

สำหรับ “นาน” นี่มีหลายแบบมากๆ ผมได้ลองแค่สองแบบครับ ได้แก่ Cheese and Garlic Naan (135 บาท) และ Garlic Naan (88 บาท) แบบอื่นนี่ผมว่าเสี่ยงแหะ กลัวสั่งมาแล้วกินไม่ได้ จะโดนปรับเอาเปล่าๆ 555

Cheese & Garlic Naan

ส่วนรูปด้านล่างคือ Garlic Naan

ทั้งสองตัวถือว่ารสชาติดีครับ แต่ตัว Cheese and Garlic Naan นี่ผมชอบมากกว่า เพราะว่ามันเหมือนกับพิซซ่าหน้าชีสเลย แต่เปลี่ยนแป้งพิซซ่าเป็นแป้งนานของอินเดีย ตัวนานของร้านนี้ทำมาสดใหม่ (ร้อนมาก) โดยรวมถือว่าชอบมากครับ

เอาละ เรามาลองตัวไก่ย่างกันบ้าง ผมขอเรียนให้ทราบไว้เลยว่า บางเมนูไก่ย่างนี่ผมจำชื่อไม่ได้จริงๆ เพราะว่ามันมีหลากหลายแบบมากกกกก แถมหน้าตา ชื่อ และคำบรรยายก็คล้ายๆกัน ถ้าเกิดผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

เมนูไก่ เมนูแรก อันนี้จำได้แม่น Chicken Lolliopop (230 บาท)

สาเหตุที่จำได้ เพราะมันเป็นไก่ทอดเมนูเดียวในบรรดาเมนูไก่ที่ได้ลิ้มลอง แต่เรื่องความอร่อย ผมให้ไม่ผ่านครับ เพราะว่าตัวแป้งเนี่ยไม่กรอบเลย มันนิ่มๆ เหี่ยวๆ ยังไงชอบกล ถึงแม้เนื้อไก่ข้างในจะหมักเครื่องเทศมาอย่างอร่อยเลยก็ตาม

ตัวต่อมา ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะเป็น Malai Kebab (347 บาท)

ตัวนี้เป็นไก่ย่างกับครีมและเครื่องเทศ เนื้อไก่นุ่มจริงๆ เครื่องเทศตัวนี้ไม่แรงเท่าไร เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเครื่องเทศเท่าใดนัก แต่โดยส่วนตัว ผมว่ารสชาติเฉยๆ ครับ ไม่โดดเด่น

ส่วนตัวนี้คิดว่าเป็น Chicken Tandoori อันมีชื่อเสียงของอินเดีย (371 บาท)

ตัวนี้อร่อยครับ เนื้อไก่ย่างมาอย่างสดใหม่ แบบร้อนๆ เลย เครื่องเทศซึมเข้าทุกอณูของเนื้อไก่ กลิ่นเครื่องเทศตัวนี้หอมจริงๆ เนื้อไก่นุ่ม กินง่าย จานนี้กินหมดกันไวมากครับ

นอกจากตัวไก่ย่างแล้ว ผมยังสั่งตัว “แกงไก่” มาลองด้วยเช่นกัน

ตัวนี้น่าจะเป็น Chicken Tikka Lababadar (347 บาท)

ถ้วยนี้อร่อยครับบอกเลย ตัวเครื่องเทศไม่เผ็ด ตัวแกงมีความหวานนิดนึง แต่จะมันๆข้นๆ กว่าถ้วยอื่นๆ หน่อย เนื้อไก่นุ่มกินง่ายเหมือนเดิม โดยรวมชอบครับ

เมนูไก่ เมนูสุดท้ายที่ได้ลองคือ Chicken Jalfrazie (347 บาท)

เมนูนี้รสชาติเหมือนกับ Prawn Malabari ที่กินไปตอนแรกทุกประการ แต่เปลี่ยนตัวเนื้อสัตว์เป็นไก่ครับ แต่ก็ยังอร่อยนะ สั่งไปแบบงงๆ ก็เลยได้มาซ้ำๆ แบบนี้แหละครับ

ส่วนจานนี้กะว่าจะเอาตัดเลี่ยน มันคือ Arabic Salad (112 บาท)

จานนี้มันเปรี้ยวมากกกกกกกกกกกกกกก ความเปรี้ยวมันกลบทุกสิ่งอย่างครับ อันนี้สงสัยจริงๆ ว่าจะให้มะนาวมาให้อีกสองฝาทำไม เพราะมันเปรี้ยวมากอยู่แล้ว เปรี้ยวสุดๆ เปรี้ยวหลุดโลก จานนี้ถือว่าไม่ผ่านครับ

ด้านล่างคือ เมนูสุดท้ายที่ได้ลองครับ Biryani Chicken (347 บาท)

จานนี้ผมตั้งใจว่าจะไม่สั่ง เพราะว่า 1. ผมอิ่มแล้ว 2. ผมไม่เคยชอบตัวข้าวบัสมาตีของอินเดียเลยจากประสบการณ์ที่ได้กินอาหารอินเดียมา แต่เพราะเพื่อนมันอยากลองแบบสุดชีวิต และทางร้านเขียนกำกับจานนี้ไว้ในเมนูของ Hungry Hub ว่า

“The perfect rice delicacy with chicken/lamb cooked with finest basmati, topped off with saffron aroma”

ซึ่งการพรรณนาแบบที่มีทั้ง “perfect” และ “finest” เมนูอื่นมันไม่มี

ผมเลยก็ต้องยอมหยวนๆ เพราะอยากจะดูว่า ทางร้านโม้รึเปล่า

สรุปคือ ไม่โม้ครับ! จานนี้อร่อยจริงๆ

ตัวข้าวที่โดยทั่วไปแล้วผมจะรู้สึกว่าหยาบร่วน กลับกลายว่าเป็นข้าวที่นุ่มมาก ไม่แห้งเลย และมีกลิ่นหอมจริงๆ ส่วนตัวไก่นี่ก็บอกว่าอร่อยดีเลย ซอสที่ให้มาออกครีมๆ นิดหน่อย ผมว่าจะราดหรือไม่ราดก็ได้ ไม่ราดก็อร่อยอยู่แล้วครับ

สำหรับการบริการแล้ว ผมไม่มีปัญหาอะไร ยกเว้นช่วงแรกที่รออาหารนานมาก แต่อาหารทำมาสดใหม่ทุกจาน และมาแบบร้อนๆ เลยขออนุญาตให้อภัย ส่วนพนักงานเสิร์ฟถามไถ่เราเป็นอย่างดีครับ ว่าอาหารเป็นอย่างไรบ้าง ร้านนี้จึงเป็นร้านอาหารอินเดียคุณภาพร้านหนึ่งที่ควรมาลิ้มลองครับ

ดูรายชื่อร้านอาหารน่าลิ้มลองในกรุงเทพและปริมณฑลได้ ที่นี่

บทความการศึกษา

Victory Tale ไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปโพสที่ใดทุกกรณี การฝ่าฝืนมีโทษทางกฎหมาย

error: Content is protected !!